เมื่อตอนปี 2018 ช่วงต้นปี เรามีโอกาสไปเที่ยวโซล เกาหลีใต้มาค่ะ ทริปนี้เป็นทริปไปเที่ยวกับสามีและไปเจอเพื่อนที่อยู่ในเกาหลีด้วย จริง ๆ ก็ชอบแบรนด์ Hermes มานาน แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ซื้อกระเป๋า Birkin จากช็อปด้วยตัวเอง ทีแรกกำลังชั่งใจว่าจะซื้อจากร้าน Reseller ไปเลยดีไหม แต่กำลังจะไปเกาหลีพอดี ก็เลยลองเข้าไปซื้อที่ช็อป Hermes ดูก่อน ซึ่งปรากฏก็ได้มาสมใจ (ขอขอบพระคุณสามีผู้น่ารักและผู้สนับสนุนค่ะ) ทำให้ไม่ต้องซื้อจากร้าน Reseller แต่ก็ต้องทำยอดประมาณนึงถึงจะได้กระเป๋าค่ะ

ช็อป Hermes ในโซลที่เราไป คือสาขากังนัมค่ะ เป็นร้าน Hermes แบบ Flagship Store ซึ่ง ณ ตอนนั้นคือมี 4 สาขาทั่วโลก ที่กังนัมชื่อ Maison Hermès Dosan Park มีประมาณ 4 ชั้น ชั้นล่างสุดมีคาเฟ่ด้วย แต่ตอนนั้นไม่ได้แวะคาเฟ่ เราตรงดิ่งไปตามหากระเป๋าอย่างเดียวค่ะ

ซื้อกระเป๋า Hermes ใบแรกในชีวิต ที่เกาหลี

เข้าไปในร้าน Hermes ก็จะมีการ Assign เซลล์ หรือ SA มาให้ค่ะ ของเราได้ผู้ชาย แรกเริ่มเดิมทีก็จะมีการแนะนำตัวพูดคุยทั่วไปกันนิดนึง ซึ่งเราก็พอศึกษามาในอินเตอร์เน็ตสักพักแล้วว่า ไปเจอกันปุ๊บอย่าเพิ่งถามหากระเป๋า เพราะอาจจะดูตรงเกินไป หรือไม่น่าสำราญใจสำหรับ SA … เราก็ต้องชั้นเชิงไว้ก่อนค่ะ เริ่มเดินจากชั้นแรก เป็นพวกเครื่องประดับ … ถูกใจแหวนวงหนึ่งเป็นแหวนฝั่ง Fine Jewelry ซึ่งที่ไทยไม่ค่อยมีไซส์หรือนำมาขาย เลยเลือกแหวนไว้ จากนั้นก็เดินดูอย่างอื่น ซึ่งตอนแรกก็ชั่งใจจะระหว่างซื้อเครื่องประดับทั้งหมด (ศึกษาหาราคาไว้ก่อนแล้ว) หรือ จะซื้อของอย่างอื่นไปด้วย ก็ตัดสินใจว่า ซื้อของใช้ในบ้าน พวก Home Accessory หรือ จาน Tray ต่าง ๆ ดีกว่า ถูกจริตมากกว่า เพราะเครื่องประดับพวก Fine Jewelry บางชิ้นยังไม่มีถูกใจและราคาก็ค่อนข้างสูงหากเทียบกับร้านเพชร สำหรับเราจึงคิดว่าอยากจะซื้อของที่ใช้งานจริง ๆ เลยลงเอยที่พวกจานและเซรามิก และรองเท้ากับกระเป๋าสตางค์ Bearn Wallet และเครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ อย่างอื่นค่ะ

ร้าน Hermes กังนัม Dosan Park

ความรู้สึกส่วนตัว คือ รู้สึกว่า ที่ร้าน Hermes สาขากังนัม Dosan Park ค่อนข้างมีสต็อคสินค้าเยอะ สังเกตจากของที่วางโชว์ มีกระเป๋า Lindy ด้วยค่ะ ในใจคิดว่าสต็อกกระเป๋าน่าจะมีสวย ๆ เยอะแน่ ๆ ขึ้นอยู่กับว่าเขาอยากปล่อยให้เราหรือเปล่า แต่ SA ของเราค่อนข้างเข้ากันได้ดีและสุภาพวันนั้นเลยค่อนข้างโชคดีด้วย พอเลือกของได้ประมาณหนึ่ง เราก็ได้โอกาสในการถามหากระเป๋า Birkin 25 โทนสีแดง, Kelly 28 สีดำหรือกรมท่า, Constance 18 สีดำ กับ SA … ทาง SA ก็ค่อนข้างตรงมาก ๆ คือเขาบอกเราเลยว่าในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่กระเป๋า Constance หายากมาก ๆ ค่ะ เพราะช่วงนั้นคนฮิตกองสต๊องกัน แต่ว่า ถ้าเรากลับมาที่ร้านในอีก 2 วันข้างหน้าได้ ที่ร้านจะมีสต็อกเข้ามา ซึ่งเป็นกระเป๋า Kelly! แม่เจ้า ใจแทบจะเด้งตกไปตาตุ่มค่ะ บางคนอาจจะเคยได้ยินมาว่า SA พูดว่าให้กลับมาดูอีก 1-2 วันอาจจะมีกระเป๋าเข้ามา แต่อันนี้เขาบอกเลยค่ะว่าอีก 2 วันจะมีเป็นกระเป๋า Kelly เข้ามา (บอกเป็นชื่อกระเป๋ามาเลย ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องหวังแล้ง ๆ) … แต่ว่าเราจะต้องทำยอดให้ได้ประมาณ 85% ของราคากระเป๋า ซึ่งเราก็ตื่นเต้นและดีใจมาก และแลกคอนแทคกับเขาไว้ว่าเราจะกลับมาแน่นอน

หลังจากนั้น 2 วัน เราก็กลับมาที่ร้าน Hermes กังนัม ไปถึงที่ร้านประมาณ 11 โมงค่ะ (ร้านเปิดประมาณ 10.30) ทาง SA เขาบอกเรามาก่อนล่วงหน้าแล้วค่ะว่าเขาเข้างานกี่โมง ไปถึงเราก็เลือกนาฬิกาเพิ่ม 1 เรือน และของอีกเล็กน้อยรวมแล้วให้ได้ยอดที่ประมาณ 85% ซึ่งจริง ๆ ของเราก็เกิน 100% มาด้วยค่ะ แต่จังหวะนั้นคือไม่เป็นไร ขอแค่ได้กระเป๋าก็พอแล้ว … SA บอกให้เรารอสักครู่หนึ่ง พร้อมกับถามว่าจะรับน้ำอะไรดี และนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟค่ะ

จังหวะที่รอคือรอไม่กี่นาที แต่ในใจคือรู้สึกเหมือนนานมาก รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกลุ้นว่าเราจะได้สีอะไร เขาจะเอาอะไรออกมาให้เราดู สักพัก SA ก็มาเชิญเราไปเข้าห้องลับ Hermes (เข้าเป็นครั้งแรก) ซึ่งเขาก็นำกล่องส้ม 2 ใบออกมา Sealed มาเรียบร้อยเห็นแล้วรู้ว่าไม่เคยเปิดมาก่อน กล่องแรกเป็นกระเป๋า Birkin 30 สี Indigo Blue อะไหล่ทอง Gold Hardware และอีกใบคือ กระเป๋า Kelly 28 Retourne สี Gris Asphalte อะไหล่ Gold Hardware เหมือนกัน หนัง Evercolor ตอนนั้นคือช็อกมากว่า เอามาให้เลือก 2 ใบเลยหรอ!!!!!!! ตอนนั้นคือช็อกมาก และน้องก็สวยมาก ๆ ทั้ง 2 ใบ จริง ๆ คือก็ชอบสี Gris Asphalte เหมือนกัน แต่ไม่เคยตั้งใจว่าจะมาในหนัง Evercolor …. ส่วน Birkin ไม่มีไซส์ 25 แต่สี Blue Indigo ก็สวยมาก ๆ คือ เหมือนจะดำแต่จริง ๆ ไม่ดำเข้มแล้วก็ไม่ใช่สีแบบกรมท่าจ๋า สรุปว่า…….

เราเลือก Birkin 30 สี Blue Indigo ค่ะ

แม้ว่าจะเสียดายกระเป๋า Kelly มาก ๆ ก็ตามเพราะว่า Kelly หายากกว่า แต่สีและหนังในวินาทีนั้นสำหรับใบแรก อยากได้สีแบบพื้น ๆ เข้ม ๆ ออกดำ ๆ และแม้ว่าสี Gris Asphalte จะเป็นสีหายาก เป็นสีซีซั่น และอะไหล่ก็สีทองเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าเราคงหาโอกาสใช้สีแบบนี้ไม่ได้ เราเหมาะไปโทน Blue Indigo มากกว่า … วันนั้นเป็นวันที่มีความสุขมาก ๆ ถือถุงออกมาจากร้านกลับโรงแรมแบบแฮ้ปปี้มาก อยากให้เพื่อน ๆ ที่มาอ่านทุกคนลองประสบการณ์แบบซื้อจากร้าน Hermes เหมือนกัน ทุกวินาทีมันลุ้นมาก ๆ ค่ะ

จากประสบการณ์การซื้อกระเป๋า Hermes คือ ก่อนหน้านี้เราเคยคิดว่าจะซื้อที่ช็อป Hermes ในไทยดีหรือเปล่าหรือที่ไหนดี เคยลองไปที่ไทย SA ก็บอกให้ทำยอดเหมือนกัน ที่ญี่ปุ่นไม่บอกให้ทำยอด แต่จะบอกว่าไม่มีของ (หน้าตาแบบเกรงใจ ๆ) แต่จะเชื้อเชิญถามว่าให้ลองดูสินค้าที่แผนกนี้ดูมั้ยสนใจชิ้นนี้หรือเปล่า ค่อนข้างผ่านประสบการณ์แบบนี้มาหลายรอบ เลยรู้ว่าจะ Walk-in ไปครั้งแรกแล้วได้กระเป๋าเลยมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ (ถ้าไม่ได้ทำยอดหรือซื้อของอะไรเลย) จึงทำให้เราตัดสินใจว่าไปเกาหลีรอบนี้ต้องได้ จะยอมทำยอดและลุยเลยค่ะ และนี่ก็เป็นประสบการณ์ของเรา ใครสนใจซื้อกระเป๋าแอร์เมสที่เกาหลี แนะนำให้ลองไปดูที่สาขากังนัมนะคะ เป็น Flagship store ร้านใหญ่ บริการดีมากค่ะ

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับบทความค่ะ ภาพจาก hermes.com

คุณอาจสนใจ