ซื้อ Hermes Shop ไทย หรือ ยุโรปดีกว่ากัน? ที่ไหนราคาถูกกว่า

จริงอยู่ Hermès มีสาขาอยู่ทั่วโลก ซึ่งแต่ละที่อาจมีราคาไม่เท่ากันหากเปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยนและ Tax Refund … บทความนี้ Beverly O จึงมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น “ซื้อ Hermes Shop ไทย หรือ ยุโรปดีกว่ากัน?” ที่ไหนราคาถูกกว่า ที่ไหนคุ้มสุด คำตอบอยู่ที่นี่ค่ะ

ภาพจาก madisonavenuecouture.com

1. ราคา Birkin ที่ยุโรปราคาประมาณเท่าไร? และ Shop ที่ไทยราคาเท่าไร แพงกว่ากันมากมั้ย

ราคา Birkin Shop ไทยคือ 365,000 บาท โดยประมาณ (ราคาปี 2020) และที่ยุโรป Birkin ราคา 285,000 บาท (หรือ $9,400) โดยคำนวณจากเรท 1 USD = 31.6 บาท ไม่รวม Tax Refund

วิธีซื้อกระเป๋า Hermes ที่ไทย ซื้ออย่างไรให้ได้กระเป๋า Birkin และ Kelly

ซื้อ Birkin ที่ไทย ราคาแพงกว่ายุโรป โดย Shop ไทยแพงกว่าประมาณ 80,000 – 100,000 บาท เพราะรวมภาษีนำเข้า พร้อม VAT 7% แล้ว… หากซื้อที่ไทย คนไทยไม่สามารถทำ Tax Refund เพราะว่าไม่ใช่นักท่องเที่ยว แต่ถ้าซื้อยุโรป วีซ่านักท่องเที่ยวก็สามารถทำ Tax Refund ได้อีก 8-23% แล้วแต่ประเทศ

อย่างไรก็ตาม การหิ้วกระเป๋า Birkin กลับไทยก็ถือเป็นการเสี่ยงมาก หากตรวจพบที่สนามบินก็ต้องเสียค่านำเข้า 30% ของราคาสินค้า บวกกับ VAT อีก 7% ช่วงนี้การตรวจการลักลอบนำเข้าสินค้ามีการตรวจเข้มมาก จนอาจเรียกได้ว่าไม่ใช่ปีทองของนักหิ้วอีกต่อไปแล้ว

คำนวณ Tax Refund คลิก

ภาพจาก madisonavenuecouture.com

2. ทำไมต้องไปหาซื้อ Birkin ทั่วยุโรป ถ้าราคาต่างกับที่ไทยไม่มาก ซื้อที่ Shop ไทยดีกว่าไหม

วีซ่านักท่องเที่ยว จะได้ Tax Refund 8-23% แล้วแต่ประเทศ จึงเป็นเหตุผลที่คนอยากไปซื้อ Birkin ที่ยุโรป

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะได้ Tax Refund แต่การซื้อกระเป๋าเบอร์กิ้นที่ยุโรป ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีการซื้อพ่วง หรือ ทำยอด เช่นเดียวกันกับที่ร้าน Hermes Shop ไทย โดยการซื้อพ่วงของแต่ละประเทศก็อาจจะมีเกณฑ์ไม่เท่ากันอีก ขึ้นอยู่กับ Relationship ของลูกค้ากับ SA และ โควต้ากระเป๋าของแต่ละร้าน

ประเทศที่คนชอบไปซื้อ Hermes มากที่สุด คือ ฝรั่งเศส โดยเฉพาะเมืองปารีส เนื่องจากเป็นสาขาแรกและสาขาใหญ่ เชื่อกันว่ามีสต็อกสินค้ามากที่สุด

ภาพจาก madisonavenuecouture.com

ซื้อที่ไทยดีกว่าไหม

สำหรับทีมงาน Beverly O เรามองว่า ถ้าซื้อที่ไทย ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการนำกระเป๋า Hermes Birkin กลับไทย ไม่เสี่ยง ตม. จับ และราคา Hermes Shop ไทย ก็เป็นราคาที่รวมภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว นอกจากนี้ คุณจะได้รับกล่อง และ อุปกรณ์ทุกอย่าง ครบสวยงาม ขนกลับบ้านชิว ๆ .. ถ้าหากอยากเปลี่ยนใบเมื่อไรก็มีกล่องนำไปส่งต่อได้

นอกจากนี้ การซื้อ Hermes Shop ไทย หากคุณมี Purchase History สวยงาม และ มีความสัมพันธ์อันดีกับ SA ก็จะช่วยให้คุณมีโอกาสได้กระเป๋า Birkin สีที่ชอบ … ถ้าหากมองมุมนี้ ก็ถือว่าดีกว่าซื้อที่ยุโรป … เพราะว่าที่ยุโรปเราไปในฐานะนักท่องเที่ยว Walk-in บางที SA ยุโรปก็ต้องเก็บของไว้ให้ลูกค้าประจำภายในประเทศ ปล่อยของยาก อาจไม่มีสีที่ชอบ ยกเว้นช็อปมีของเยอะ

ภาพจาก madisonavenuecouture.com

3. Shop Hermes ในต่างประเทศ SA ดูการแต่งตัวหรือไลฟ์สไตล์ ด้วยหรือเปล่า? แถมต้องซื้อพ่วงด้วยไหม? ถ้าคนธรรมดาเดินเข้าไปใน Shop ที่ไทยไปเจาะจงถามซื้อเฉพาะ Birkin เขาจะขายให้หรือไม่ (ถ้ามีของและไม่มีคนจองกระเป๋าใบนั้นไว้)

เรื่องการแต่งตัวของลูกค้า เชื่อว่าแบรนด์ทุกแบรนด์มีการแนะนำให้ดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด ไม่ตัดสินใครที่ภายนอก แต่การดูถูกหรือนินทาลูกค้าอาจไม่เกี่ยวกับแบรนด์ แต่อาจเป็นทัศนคติของแต่ละคน เพราะฉะนั้น อย่าไปสนใจดีที่สุด ถ้าหากบริการเราไม่ดี เราก็ไม่ควรซื้อ คุณสามารถเปลี่ยน SA หรือเปลี่ยนร้านได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อกับ SA ที่ดูแลไม่ดี

อย่างไรก็ตาม ทุก Shop Hermes ลูกค้าต้องซื้อพ่วงค่ะ ทั้งในยุโรปและในไทย ถึงจะมีโอกาสได้กระเป๋า Birkin และ Kelly

Hermes Shop ไทย ยุโรป และ ทั่วโลก มักไม่ขายกระเป๋า Birkin และ Kelly ให้ลูกค้าที่ Walk-in ไปแล้วถามหากระเป๋าค่ะ แม้ว่าจะมีของและไม่มีคนจองกระเป๋าใบนั้นไว้ก็ตาม เพราะเป็นระเบียบของร้านที่ใคร ๆ ก็เจอ และนอกจากนี้ ยังเป็นการป้องกัน Reseller มาซื้อกระเป๋า Birkin, Kelly ไปขายต่อทำกำไรด้วย

4. SA ร้าน Hermes ในไทยบริการเป็นยังไง หยิบของมาให้ดูหรือมาลองได้ทั้งหมดตามที่ลูกค้าต้องการหรือเปล่า ถ้าเราแต่งตัวธรรมดา และไม่ได้มีประวัติการซื้อแบรนด์เนมและไม่ต้องการซื้อพ่วง

จากประสบการณ์ของเรา เวลาไปที่ Shop Hermes ไทย คุณสามารถบอกพนักงานได้ว่าอยากดูอะไร สนใจอะไร พนักงานจะหยิบออกมาให้ดูให้ลอง โดยไม่จำเป็นต้องแต่งตัวหรูหรา ไม่ได้สวมสินค้าแบรนด์เนม

แต่ทุกคนที่อยากซื้อกระเป๋า Birkin หรือ Kelly ก็ต้องซื้อพ่วงอยู่ดี โดยคุณอาจจะได้ยินเธอบอกว่ามันเป็นกฏค่ะ

การซื้อพ่วงของ Hermes

เราลองมาคิดถึงมุมของเจ้าของแบรนด์ กับ มุมของลูกค้าประจำดูนะคะ หากเราเป็นลูกค้าประจำ เราจะรู้สึกอย่างไรกับการที่ลูกค้าท่านอื่นมาขอกระเป๋าโดยที่ไม่ได้ทำยอด? ซึ่งทางแบรนด์ก็ตัดสินใจยากด้วยว่าใครเป็น Reseller ที่จะเอาไปขายต่อ หรือ ใครคือลูกค้าจริง ๆ

ถ้าหากเราเป็นเจ้าของแบรนด์ มันคงจะดีกว่าที่มีลูกค้าประจำที่ชื่นชอบงานของร้านเราจริง ๆ เราคงอยากจะขายงานชิ้นเอกให้กับลูกค้าประจำมากกว่า … สาว ๆ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้คะ?