ซื้อ MacBook รุ่นไหนดี

คำถามที่เกิดขึ้นบ่อยๆ และ หลายๆคนกำลังสงสัย ว่าจะชื้อ MacBook ตัวไหนดี ตัวไหนที่เหมาะกับเรา เรามีรุ่นฮิตๆ ใช้งานได้คุ้มๆ มาฝากกันค่ะ

1. MacBook Air

Macbook Air 2019

MacBook Air จุดเด่นอยู่ที่การพกพา น้ำหนักเบา สะดวกเหมาะงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องพกพาและเดินทางในทุกวัน ซึ่งสะดวกกับการหิ้วไปไหนมาไหน เหมาะสมกับพวกงานเอกสารทั่วไป สามารถใช้ในงานกราฟฟิค แต่งรูปและตัดแต่งรูปด้วย Photoshop ขั้นพื้นฐาน ก็เอาอยู่ ส่วนงานวิดีโอตัดด้วยแอป iMovie ก็พอไหวเช่นกัน

ตัว MacBook Air เน้นบางเบา ทำงานคล่องตัวเหมาะกับงานพื้นฐานทั่วไป แบตเตอรี่ใช้ได้ทนนาน แถมหน้าจอความละเอียดสูงแบบ Retina Display พร้อมเทคโนโลยี True Tone อีกด้วย และที่สำคัญราคาน่าคบหามาก ๆ

ราคาเริ่มต้นเพียงสามหมื่นต้นๆ เท่านั้น

2. MacBook Pro 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว

MacBook Pro 2019 โปรเซสเซอร์แบบ 8-core รุ่นแรก

เอาใจคนที่รักความสะดวกด้วย Touch Bar ปุ่มฟังก์ชันต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม เพิ่ม–ลด ระดับเสียง, ปุ่มปรับระดับความสว่าง, ขยาย, ย่อ หรือจะรับโทรศัพท์บน iPhone และปุ่มอื่นๆ อีกมากมายในรูปแบบ Touch Bar แถบกระจกที่ทำงานแบบ Multi-Touch รวดเร็วทันใจสุดๆ

ในส่วนของระบบปฏิบัติการนั้นมาพร้อม macOS ที่สามารถอัปเกรดได้ฟรีตลอดอายุการใช้งาน

ส่วนสเปคซีพียูนั้นก็มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel Core i9 (เจนเนอเรชั่นที่ 9)

แบบ 8-core ความเร็วสูงสุด 5GHz (Turbo Boost) รองรับ RAM มากสุด 32GB ช่วยให้การทำงานได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับมือกับงาน

จุดที่แตกต่างระหว่าง MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว คือ

13 นิ้วขนาดของตัวเครื่องเล็กกว่า มีน้ำหนักเบากว่า ราคาถูกว่า
15 นิ้วอัปเดต CPU ได้มากกว่า จอแสดงผลใหญ่กว่า ต่อออกจอนอกความละเอียดสูงได้มากกว่า RAM อัปเดตได้มากกว่า (สูงสุด 32GB vs 16GB)

MacBook Pro 13 นิ้ว

เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกในการพกพา แต่ว่ายังคงประสิทธิภาพในการประมวลผลที่สูงได้ เช่น โปรแกรมเมอร์, Webdesigner หรือสายงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับกราฟิกมากขึ้น

MacBook Pro 15 นิ้ว

รุ่นนี้มากับความแรงและประสิทธิภาพที่สูง เหมาะสมที่สุดสำหรับมือโปร ที่ต้องการพลังการประมวลผลสูง หน้าจอการแสดงผลที่ใหญ่และต้องทำงานนอกสถานที่

MacBook Pro 16 นิ้ว (ยังไม่มีกำหนดวางขายในไทย)

รุ่นนี้ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นที่ 9 แบบ 6-core และ 8-core พร้อม Turbo Boost ที่เพิ่มความเร็วได้สูงสุด 5.0 GHz, หน่วยความจำสูงสุด 64GB,

ตัวจัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ที่มีความจุมากขึ้นสองเท่าเป็น 512 GB และ 1 TB เพิ่มสเปคได้สูงสุด 8 TB, แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 11 ชั่วโมงทีเดียว

เหมาะกับสายกราฟฟิคแบบเต็มขั้น การแสดงผมภาพ สี คมชัด กราฟิกถึง 8GB ช่วยให้งานกราฟิกหนักๆ ลื่นไหลได้ดีแบบสุดๆ พร้อมลำโพงที่มากถึง 6 ตัว ให้รายละเอียดของเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

สรุปแล้ว ถ้าใช้งานอย่างงานเอกสาร ท่องเว็บ ดูหนังฟังเพลง MacBook Air ก็เพียงพอแล้ว แถมราคายังสบายกระเป๋าด้วย ส่วนงานสายกราฟฟิก เขียนโปรแกรมหรือสายตัดต่อวิดีโอ แนะนำว่าควรซื้อ MacBook Pro เพื่อการทำใช้งานที่ไหลลื่นไม่มีสะดุดค่ะ