in , , , , , ,

คุณแม่ฟูลไทม์ เรียนขับรถยนต์กับโรงเรียนสอนขับ ดีมั้ย? 10 ชั่วโมงจะขับได้มั้ย

คุณแม่ฟูลไทม์ เรียนขับรถยนต์กับโรงเรียนสอนขับ ดีมั้ย? 10 ชั่วโมงจะขับได้มั้ย

จะส่งลูกเข้าโรงเรียนแล้ว แต่คุณแม่ยังขับรถยนต์ไม่เป็น เลยกังวลว่าจะกล้าขับรถไปรับส่งลูกดีไหม เป็นปัญหาคิดไม่ตกสำหรับแม่ ๆ หลายท่าน บทความนี้ Beverly-O มีรีวิวมาฝาก เล่าประสบการณ์การเรียนขับรถยนต์กับโรงเรียนสอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร พร้อมกับมาเล่าประสบการณ์การหัดขับรถยนต์ครั้งแรกในชีวิตของเรามาฝากค่ะ

ทำไมถึงควรเรียนขับรถยนต์?

ทำไมถึงควรเรียนขับรถยนต์ ที่โรงเรียนสอนขับ?

การที่เราขับรถด้วยตัวเองได้ จะทำให้เรามีอิสระในการเดินทางไปไหนมาไหนมากกว่าตอนขับไม่เป็น ไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายในการจ้างคนขับ ความเป็นส่วนตัว ที่ตัดปัญหาไม่ต้องให้ใครมาฟังเรื่องส่วนตัวของเราเวลาเราคุยโทรศัพท์หรือคุยกับคนในครอบครัว ความปลอดภัย อาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่หากขับรถเองเป็น ก็เท่ากับได้เรียนรู้ทักษะสกิลขับรถติดตัว และอีกมากมาย

นี่ยังไม่รวมถึงการไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ในบางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องรอใคร ก็สามารถขับรถไปเองได้ก็ทำให้คุณผู้ชายที่บ้านเกรงใจเราขึ้นมานิดนึงด้วย บางบ้านที่คุณพ่ออาจจะชอบทะเลาะกันแล้วขับรถออกไปนอกบ้านคนเดียวลองคุณแม่บ้านขับรถเป็นบ้าง แล้วพาลูกหรือพาตัวเองออกไปนอกบ้านคนเดียวไม่บอกใคร ก็อาจจะทำให้คุณผู้ชายเลิกทำนิสัยทะเลาะแล้วออกนอกบ้านคนเดียวไปได้เลยค่ะ (อย่างหลังนี้แซวเล่น อย่าทำตามจริง)

เมื่อคุณแม่ขับรถเป็นแล้ว คุณแม่จะรู้สึกได้ว่าชีวิตมีอิสระมากกว่าเดิม การออกจากบ้านแต่ละครั้งไม่ต้องหวาดระแวงเรื่องค่ารถที่จะถูกชาร์จเพราะจ้างคนขับ จะเอาไปเมื่อไร ออกกี่ครั้งก็ได้ ไม่ว่าจะลืมของ ทำธุระ ทำอะไรที่ไหนก็มีอิสระไม่ต้องกังวล

ข้อดีข้อเสีย ของการเรียนขับรถยนต์กับโรงเรียนสอนขับรถ

คุณแม่ฟูลไทม์ เรียนขับรถยนต์กับโรงเรียนสอนขับ ดีมั้ย? 10 ชั่วโมงจะขับได้มั้ย

1. ได้เรียนรู้เทคนิคการขับรถปัง ๆ คลายสงสัย จากครูสอนขับผู้เชี่ยวชาญ

ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ยังไม่เคยขับรถ หัดขับรถครั้งแรกในชีวิต แบบไม่รู้จักเกียร์ หรือ จะงงว่าทำไมเวลาขับบริเวณทางโค้ง รถถึงขับล้ำเส้นไปอีกเลน ต้องขับยังไงให้รถตรงในทางโค้ง? หรือจะกลับรถ เลี้ยวรถจังหวะไหน จะแซงยังไง ต้องเหยียบคันเร่งจังหวะไหน? ใช้เวลาดูกระจกรถได้กี่วิก่อนที่รถจะเริ่มส่าย ฯลฯ คุณก็สามารถสอบถามได้ตรง ๆ ตอนครูฝึกนั่งสอนคุณอยู่ในรถ นี่เป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ ที่ทีมงาน Beverly-O คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับทุกคนเพราะว่าในบางครั้ง หากเราเรียนขับรถกับคุณสามี หรือกับคนกันเองในบ้าน ถ้าหากเขาเหล่านั้นไม่ถนัดเรื่องการพูดการอธิบาย ไม่ได้อยู่ในฐานะที่สอนขับรถเป็นอาชีพ ก็อาจจะไม่ชินเรื่องภาษาที่ใช้ในการสอน หรือไม่สามารถอธิบายเทคนิคการขับรถบางอย่างได้ดีเท่าครูที่สอนเป็นอาชีพ แล้วพาลจะให้ทะเลาะกัน จนไม่อยากจะเรียนขับรถอีกต่อไป แต่ถ้าเรียนกับครูสอนขับรถมืออาชีพ ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไปค่ะ

คุณแม่ฟูลไทม์ เรียนขับรถยนต์กับโรงเรียนสอนขับ ดีมั้ย? 10 ชั่วโมงจะขับได้มั้ย

2. เรียนแค่ 10-15 ชั่วโมง แต่เป็นชั่วโมงที่มีคุณภาพ

บางคนอาจโดนคนเฒ่าคนแก่ในบ้านแซวมาว่า ไปเรียนขับรถ 10 ชั่วโมงจะได้อะไร? ตัวเขาเองสอนลูกสาวเขาตั้ง 10 ปี กว่าจะให้ไปสอบใบขับขี่ ซึ่งก็มีประสบการณ์มากกว่าเราที่อาจจะไปเรียนขับรถ 10 ชั่วโมงแล้วสอบใบขับขี่ทันทีแต่ทว่าในความเป็นจริงที่ทีมงาน Beverly-O เจอปัญญามามันคืออย่างนี้ค่ะ ….

บางครั้งการที่คุณไปเรียน ๆ ขับเล่น ๆ กับพ่อของคุณเป็น 10 ปี โดยที่พ่อก็ใช้แค่ประสบการณ์ส่วนตัวแล้วฝึกหัดขับกันเอง คุณอาจจะได้ข้อมูลมาผิด ๆ ได้เช่นกัน อาทิ เวลาเลี้ยวรถจะต้องหักพวงมาลัยบิดให้สุดทุก ๆ ครั้ง เหมือนขับรถบั๊ม! เป็นต้น (ซึ่งอาจเป็นวิธีที่ผิด) … ซึ่งครูสอนขับรถอาจจะบอกวิธีที่ตรงกันข้ามกันมา ว่าควรดูระยะ ความเร็วรถ และการเหยียบเบรค … ไม่ควรจะบิดพวงมาลัยแบบสุดพวงหรือหักพวงมาลัยกระทันหัน เพราะว่านี่คือรถยนต์ไม่ใช่รถบั๊มนะจ้ะเธอ ซึ่งก็ทำให้เกิดอันตรายในการขับขี่ได้

โดยคุณครูจะสอนขับรถตัวจริงจะสอนให้ดูระยะ ดูจังหวะเลี้ยวรถ สอนดูระยะที่ควรเริ่มหมุนพวงมาลัยรถ การคลายพวงมาลัย ระยะที่ควรเริ่มให้สัญญาไฟเลี้ยว และอีกมากมาย รวมไปถึงต้องแตะคันเร่งอีกทีเมื่อไรหลังหมุนพวงมาลัยซึ่งสิ่งเหล่านี้ ต่อให้คุณไปฝึกขับคนเดียวหรือกับคนรู้จักมาเป็น 10 ปี แต่ถ้าหากได้ข้อมูลผิด ๆ มา ก็อาจจะทำให้ขับรถได้ก็จริง แต่ก็ไม่ปลอดภัยเท่าเรียนรู้ข้อมูลที่ถูกต้องจากครูผู้เชี่ยวชาญ และ Beverly-O มองว่า 10 ชั่วโมงที่มีคุณภาพ อาจจะคุ้มค่ากว่าการลองผิดลองถูกเองเป็น 10 ปี ก็ได้ค่ะ

3. เรียนตามเวลาที่สะดวก พร้อมสนามฝึกที่ได้มาตรฐาน

หากเราหัดขับรถยนต์ด้วยตัวเอง ก็อาจจะต้องหาสถานที่หัดขับ จะไปหัดขับที่ห้างหรือที่ส่วนบุคคลบางครั้งก็ผิดกฏของสถานที่ เพราะไม่อนุญาตให้ใช้หัดขับรถ แต่ถ้าหากเราเรียนที่โรงเรียนสอนขับ เราจะได้ฝึกบนสนามฝึกที่ได้มาตรฐาน มีครบทั้งวงเวียน ทางเลี้ยว ป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ รวมทั้งสถานที่ฝึกจอด โดยที่เราไม่ต้องแอบไปฝึกถอยหลังเข้าซองข้างรถคนอื่นให้เจ้าของรถใจหายเล่น นอกจากนี้ ยังสามารถเรียนได้ในเวลาตามที่สะดวก รถครูฝึกมีการติดตั้งเบรกฝั่งที่ครูฝึกนั่ง ไม่ต้องกังวลเรื่องอุบัติเหตุเท่าหัดขับรถด้วยตัวเอง

4. สอบใบขับขี่ได้ที่โรงเรียน

นอกจากจะมีการอบรมเหมือนกับเวลาที่เราไปสอบที่ขนส่งแล้ว ยังมีการสอนทฤษฏีการขับรถ สัญลักษณ์ ป้าย และสิ่งต่าง ๆ ที่ควรรู้เกี่ยวกับการขับรถ รวมทั้งสามารถสอบใบขับที่ได้ที่โรงเรียนสอนขับได้เลย ก่อนที่จะนำเอกสารไปยื่นและถ่ายใบขับขี่ที่ขนส่ง เรียกได้ว่าสะดวกมาก ๆ ค่ะ

5. มีผู้ช่วยให้คำปรึกษา แม้วันต่อใบขับขี่

สำหรับการทำใบขับขี่ หรือแม้แต่ต่ออายุใบขับขี่หลังใบขับขี่ชั่วคราว 2 ปีหมดอายุหากคุณเป็นนักเรียนของโรงเรียนสอนขับรถ ก็จะสามารถสอบถามรายละเอียดและเอกสารที่ต้องเตรียม หรือแม้กระทั่งสอบถามเรื่องการจองนัดในแอพลิเคชั่น ซึ่ง Beverly-O ขอแนะนำว่าข้อนี้สำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะว่าการทำนัดต่อใบขับขี่ในแอพลิเคชั่น หากเลือกประเภทวันจองไปผิดก็จะต้องทำคิวนัดหมายใหม่อีกครั้ง ซึ่งบางครั้งกว่าจะได้คิวก็หลายเดือนกันเลยทีเดียวค่ะ แนะนำว่าควรทำคิวนัดล่วงหน้าก่อนใบขับขี่หมดอายุ และควรศึกษาเลือกประเภทการจองให้ถูกต้อง เพื่อที่จะไม่ต้องเสียเวลาไปรอเก้อค่ะ

เรียน 10-15 ชั่วโมงจะขับรถได้จริงหรอ?

เล่าประสบการณ์ของตัวผู้เขียนเอง หลังจากเรียนขับรถยนต์ครั้งแรก เราก็พบว่าเราขับได้ มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะกล้าขับหรือไม่ เราคิดว่าถ้าเราไม่ขับ แล้วเมื่อไรจะขับได้? ทีนี้ตอนระหว่างเรียนกับครูฝึกขับ เราก็จะถามทุกคำถามที่เรารู้สึกกังวล เช่น

  • เวลาจะแซงต้องทำยังไง แซงแล้วควรเร่งความเร็วเลยหรือไม่
  • เวลาขับทางโค้ง ทำยังไงถึงจะไม่คร่อมไปอีกเลน
  • ควรเปิดไฟเลี้ยวตอนไหน ถึงจะไม่เปิดเร็วไปจนรถด้านหลังบีบแตรด่า
  • การดูกระจกข้างรถยนต์ ใช้เวลาดูได้กี่วินาที ก่อนที่รถจะเริ่มส่าย
  • ระยะห่างในการขับหรือจอดเทียบกับฟุตบาล ครูสอนขับจะสอนดูว่าควรห่างกี่ฟุต โดยดูจากในกระจก
  • การจับพวงมาลัยเวลาเลี้ยวรถ หมุนพวงมาลัยยังไงไม่ให้รถกระชาก
  • การขับรถในโซนที่มีรถใหญ่ รถพ่วงวิ่ง ควรระวังอะไรบ้าง
  • การขับรถในโซนที่มีรถมอเตอร์ไซค์เยอะ ควรระวังอะไรบ้าง
  • การจอดรถ ถอยหลังเข้าซอง และท่าอื่น ๆ ที่ฝึกจอดรถโดยเปลี่ยนเกียร์ไม่เกิน 2 ครั้ง

เป็นต้น

เรียนเสร็จแล้วจะฝึกหัดขับคนเดียวได้หรอ?

การขับรถ ใช้รถจริง ๆ หลังได้ใบขับขี่จะทำให้ประสบการณ์ของเรามีมากขึ้น ซึ่งก็ต้องพูดตรง ๆ ว่าเราต้องมานั่งคิดดูแล้วล่ะว่าถ้าไม่ขับแล้วเมื่อไรจะขับเป็น? ได้ความรู้ที่ถูกต้องมาจากโรงเรียนขับรถแล้ว แต่ถ้าไม่ออกไปขับรถยังไงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี อย่างไรก็ตาม หากรู้สึกไม่มั่นใจ โรงเรียนสอนขับรถบางแห่งก็ยังมีคอร์สให้กลับไปเรียนอีกรอบแบบให้มีครูฝึกนั่งข้าง ๆ ขับด้วยกันไปด้วย หรือ บางคนจะให้ญาติหรือคนรู้จักที่ขับรถคล่องนั่งรถไปด้วยกันก็ได้เพื่อความสบายใจเวลาขับรถไปข้างนอกคนเดียว

ประสบการณ์ของ Beverly-O นั้น เราใช้เวลาประมาณ 3 เดือนหลังได้ใบขับขี่ ขับทุกวัน ขับไปกับญาติอย่างปลอดภัย อาจจะมีมือเปียกตื่นเต้นบ้างในวันแรก ๆ แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับทริค และการแชร์ประสบการณ์การเรียนขับรถในโรงเรียนสอนขับ … ทั้งนี้ Beverly-O ขอแนะนำว่า คุณแม่ควรเลือกโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับมาตรฐานและได้รับการรับรองที่ถูกต้อง มีสนามขับฝึกสอนภายในโรงเรียนก็จะดีกว่า รวมทั้งเมื่อสอบใบขับขี่ผ่านแล้ว อย่าลืมติดกล้องหน้ารถ และอุปกรณ์วางโทรศัพท์มือถือในรถ เพื่อความปลอดภัยเวลาต้องดูแผนที่ หรือเพื่อที่จะได้มีอุปกรณ์บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานเวลาเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์นะคะ และที่สำคัญที่สุดอย่าลืมทำประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุและประกันรถยนต์กันด้วยนะ! ขอให้ทุกท่านโชคดี และมีความมั่นใจในการขับรถมากยิ่งขึ้นค่า

Report


ชอบเว็บไซต์ของเรา? ตั้งกระทู้ เขียนรีวิว หรือ บทความ หรือ สนใจลงโฆษณา ติดต่อทีมงาน Beverly-O

Written by BeverlyO

ประสบการณ์ รถ BMW แจ้งเตือน Chassis Drive Moderately ต้องแก้อย่างไร?

รถ BMW แจ้งเตือน Chassis Drive Moderately คืออะไร? ต้องแก้อย่างไร?

10 ทักษะ "Friendship Skill" สอนลูกให้เข้ากับเพื่อน แก้ปัญหาลูกไม่มีเพื่อน

10 ทักษะ “Friendship Skill” สอนลูกให้เข้ากับเพื่อน แก้ปัญหาลูกไม่มีเพื่อน