ใครมีปัญหา ‘ลูกอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก’ หรืออยาก สอนเด็ก สอนลูกอ่านภาษาอังกฤษ กันบ้างคะ? คุณรู้หรือไม่ ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก 4-6 ขวบ สามารถฝึกได้ง่ายมาก ด้วย วิธีฝึกการอ่านออกเสียง Phonics … ถ้าภาษาไทยมีการฝึกเด็กอ่านหนังสือแบบ กอ–อา = กา … ในภาษาอังกฤษก็มีวิธีฝึกเด็กอ่านหนังสือเหมือนกันค่ะ และในบทความนี้ ทีมงาน Beverly-O.com มี ‘วิธีสอนลูกอ่านภาษาอังกฤษ Phonics’ และ ‘เทคนิคการสอนอ่านภาษาอังกฤษ’ สำหรับเด็กอายุ 4-6 ขวบมาฝาก แบบโรงเรียนนานาชาติ เพื่อให้พ่อแม่ ฝึกเด็กหัดอ่านภาษาอังกฤษที่บ้านค่ะ
คุณอาจสนใจ
รีวิว เทคนิคการสอนอ่านภาษาอังกฤษ วิธีฝึกเด็กอ่านภาษาอังกฤษ Phonics
โฟนิกส์ (Phonics) คือ วิธีการสอนเด็กให้อ่านด้วยการเชื่อมโยงหน่วยเสียงเข้าด้วยกัน หน่วยเสียงเรียกว่า Phoneme เช่น C ออกเสียงว่า เค่อะ เมื่อนำหน่วยเสียงมาเชื่อมกัน เช่น CAT อ่านออกเสียงว่า เข่อะ แอ่ะ เถอะ = แค่ท … รวมถึงเรียนรู้และออกเสียงสัญลักษณ์ที่แสดงถึงกลุ่มหรือตัวอักษร (Graphemes หรือ Letter Group) … โฟนิกส์ หรือ Phonics เป็นวิธีการเรียนอ่านหนังสือที่ใช้ในโรงเรียนประถมในสหราชอาณาจักร และหลากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งโรงเรียนนานาชาติระบบอังกฤษในประเทศไทยก็ใช้วิธีนี้กันค่ะ
และนี่คือวิธีสอนโฟนิคส์ เด็กอนุบาลนานาชาติ 4-6 ขวบ ที่คุณแม่ Beverly-O.com ได้รับประสบการณ์มาจากการส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติระบบอังกฤษค่ะ
1. ถอดเสียงพยัญชนะ ภาษาอังกฤษ
เมื่อเด็กนานาชาติระบบอังกฤษ เรียนถึงชั้น Reception (หลักสูตรไทยเทียบเป็น อนุบาล 2 , หลักสูตรอเมริกาเทียบเป็น Pre-School) โรงเรียนจะเริ่มสอนตัวอักษรภาษาอังกฤษให้เด็ก โดย
- สอนให้รู้จัก A-Z สอนให้รู้ว่าเขียนยังไง แต่ละตัวหันหัวหันหน้าไปทางไหน ตัวพิมพ์ใหญ่กับตัวพิมพ์เล็กเขียนยังไงบ้าง และหมายถึงตัวอักษรตัวไหนบ้าง
- หลังจากนั้น โรงเรียนจะให้เด็กดูตัวอักษร แล้วอ่านออกเสียงออกมา เรียกว่าการ ‘Decoding’ ค่ะ เช่น
(ขออนุญาติพิมพ์ตามเสียงในหัว ไม่ได้ยึดหลักความถูกต้องนะคะ) P ออกเสียงว่า เผ่อะ , A ออกเสียงว่า แอ่ะ, T ออกเสียงว่า ‘เถอะ’
ซึ่งการอ่านออกเสียง Decoding เสียงแต่ละตัวจะเริ่มจากตัวอักษรง่าย ๆ แล้วขยับขึ้นเป็นเสียงที่ออกยากขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ
ภาพจาก jollylearning.co.uk
2. สอน Blend เสียง หรือ ผสมเสียง
หลังเด็ก ๆ เริ่มจำได้ ว่าตัวอักษรแต่ละเสียงออกเสียงว่าอะไร คุณครูในโรงเรียนนานาชาติอังกฤษ จะสอนเด็กอนุบาลให้ ‘เบลนด์เสียง’ (ผสมเสียง) ค่ะ เช่น ตามที่บอกไป เผ่อะ – อ่ะ – เถอะ = แพ่ท หรือ PAT ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีการสอนเด็กให้อ่านภาษาอังกฤษที่ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ค่ะ
ตรงกันข้าม หากเราสอนตรงกันข้าม ด้วยการจำ
เช่น PAT อ่านว่า พีเอที = PAT … เป็นการจำ และเด็กจะไปต่อจากเดิมไม่ได้หรือได้แต่ว่ายาก อย่าลืมว่ายังมีคำยาก ๆ เช่น
Power ที่อ่านออกเสียงแบบคนไทยว่า ‘พาวเวอร์’ ลูกจะงงสิ ว่า พีโอดับบลิวอีอาร์ อ่านว่า ‘พาวเวอร์’ ได้ยังไง
การ Blend Sound ของ Phonics จะช่วยให้เด็กเข้าใจและอ่านหนังสือได้ราบรื่น แบบโรงเรียนไทยสอนว่า กอ–อา = กา หรือ เผอะ-เอาะ-เหว่อ-เออร์ = พาวเวอร์ ซึ่งฟังแล้วมีเหตุผลมากกว่า พีโอดับบลิวอีอาร์ = พาวเวอร์ ค่ะ
3. สอนอ่าน CVC Words
ต่อมา พอเด็ก ๆ อนุบาลเริ่มอ่านเสียงง่าย ๆ ได้แล้ว โรงเรียนจะเริ่มโฟกัสไปที่การถอดเสียงตัวอักษรที่สะกดด้วย 3 ตัวอักษร ประกอบด้วย สระ, พยัญชนะ และตามด้วยสระ เป็นเสต็ปคำง่าย ๆ เช่น CAT, MAT, HAT (คำศัพท์ที่เขียนด้วยพยัญชนะ + สระ + พยัญชนะ)
เด็ก ๆ จะได้เรียนตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวอื่น ๆ เช่น g, b, d และสระที่เหลือ เช่น e, o, u พร้อมกับมีหนังสือหรือมีการ์ดให้อ่าน คุณครูจะคอยเข้ามาประกบเด็กตอนเด็กกำลังเล่นของเล่น แล้วลองเอาการ์ดหรือเอาหนังสือให้เด็กอ่านออกเสียงออกมาดัง ๆ เรียกได้ว่าเป็นการสอนแบบสอนทีละนิด แต่จำ จำเข้าไปในสายเลือดและเข้าใจอย่างถ่องแท้ ไม่มีนั่งท่องนั่งจำเป็นคำ ๆ … ลืมภาพสมัยที่เราเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนกันเมื่อ 20-30 ปีที่แล้วค่ะ
4. ถอดเสียงกลุ่มพยัญชนะในคำ CCVC และ CVCC
ระดับการเรียนโฟนิกส์ (Phonics) ขั้นต่อไปคือ คุณครูจะสอนให้เด็กอ่านพยัญชนะ CCVC และ CVCC โดย C ย่อมาจาก Consonant หรือ พยัญชนะ และ V คือ Vowel หรือ สระ CC ก็คือ พยัญชนะสองตัวเขียนติดกันที่ทำให้เบลนด์เป็นเสียงใหม่ เช่น tr ติดกัน อ่านออกเสียงว่า เทอะ-เออร์ … พอรวมกัน เช่นคำว่า Train ก็กลายเป็น เทอะ-เออร์-เอย์-อึน ออกเสียงว่า เทรน ค่ะ
สรุปง่าย ๆ อีกครั้งค่ะ สังเกตไหมคะ เริ่มแรกจะสอน CVC ก่อน เป็นคำง่าย ๆ เช่น CAT ซึ่งเป็นพยัญชนะ + สระ + พยัญชนะ รวมกันทำให้เกิดเป็นคำ ตอนนี้พอเด็กเริ่มคุ้นชินขึ้น จะสอนตัวอักษรที่ 2 ตัวที่เบลนด์เสียงด้วยกัน ผสมสระและพยัญชนะอีกตัวจนกลายเป็นคำใหม่ เช่น TRAP ซึ่งสะกดด้วย พยัญชนะ + พยัญชนะ + สระ + พยัญชนะ (หรือ CCVC) นั่นเองค่ะ ยกตัวอย่างดังนี้
CCVC เช่น tr, ch, st, gr, sh
ที่สะกดเป็นคำออกมาเช่น trap, chain, stop, shop
CVCC เช่น nt, st, rt, lk, nt
เช่น pant, fast, milk, want
5. เรียนรู้การออกเสียง สระ digraph
ที่โรงเรียนนานาชาติที่ลูกทีมงาน Beverly-O.com เรียน สอนการออกเสียง สระ digraph เร็วมากค่ะ เรียกได้ว่าแทบจะสอนควบคู่ไปกับการออกเสียงพยัญชนะธรรมดาเลย สระ Digraph คือ เสียงสระสองตัวทีรวมกันแล้วทำให้เกิดเสียงเดียว เช่น /oa/, /oo/, /ee/, /ai/ คุณครูก็จะทำการ์ดมาให้เด็ก สำหรับให้พ่อแม่ฝึกโฟนิคส์ภาษาอังกฤษกับเด็ก ๆ ตอนอยู่ที่บ้านด้วย เด็กจะถูกสอนว่า ai อยู่ด้วยกันออกเสียงว่า “เอย์” นะ แล้วมีเป็นประโยคสอนให้จำเช่น “ai ai, What a rain” หรือ “ee, ee, I can see” และ “Oi oi, Let’s all join” ขณะเดียวกันนักเรียนก็จะถูกสอนเกี่ยวกับ Split digraph หรือ Magic e เช่นกันค่ะ
ถึงจุดนี้ เด็ก ๆ จะเริ่มอ่านคำโดยเบลด์เสียงได้แล้ว เช่น train, rain, see, join
6. เรียน Consonant Digraph หรือ พยัญชนะ digraph
เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้พยัญชนะที่ติดกันสองตัวแต่รวมเป็นเสียงเดียว เช่น Ch และ Sh (ถามลูก ลูกออกเสียงว่า เฉอะ) และถูกสอนให้รู้จักและอ่านคำที่ขึ้นต้นด้วยตัวพยัญชนะดังกล่าว เช่น Shop, Chair และได้รับหนังสือที่มีคำเหล่านี้ สำหรับกลับมาฝึกอ่านกับพ่อแม่ที่บ้านอาทิตย์ละหนึ่งเล่มค่ะ
การสอน trigraphs และ digraph บางโรงเรียนจะเริ่มสอน พยัญชนะสามตัวตอน Year 1 แต่โรงเรียนนี้สอนตั้งแต่ Reception ค่ะ เช่น ‘igh’ ที่อยู่ในคำว่า ‘Light’ และอีกมากมายค่ะ
ประสบการณ์ของแม่กับลูกโรงเรียนนานาชาติ สอนเด็กเรียน Phonics
ในขณะเดียวกันโรงเรียนก็สอนเด็กสะกดคำไปด้วย ช่วงเรียนออนไลน์เพราะโควิด-11 ก็จะวุ่นวายหน่อยเพราะคุณแม่จะต้องเรียนออกเสียง Phonics (โฟนิกส์) เพื่อที่จะคุยกับลูกและแนะนำลูกให้ได้ คุณแม่ก็ต้องฟังเสียงในคลิปนี้ไป เพราะการออกเสียงพยัญชนะบางตัวเรายังไม่เคยรู้เลยค่ะหากไม่เรียนโฟนิกส์ … การเรียน Phonics คือสิ่งสำคัญ หากพ่อแม่ต้องการให้ลูกเด็กไทยอ่านภาษาอังกฤษได้ค่ะ
สมมติ ตัว L หากดูคลิปใน Youtube คลิปสอน Phonics บางคลิปจะให้ออกเสียงว่า เล่อะ แต่ในโรงเรียนที่ลูกทีมงานเรียนจะสอนให้ออกเสียงว่า “อึล” หรือ “เอิล” โดยปลายลิ้นแตะบริเวณหลังฟันหน้าค่ะ คุณแม่คิดว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ควรให้เจ้าของภาษาสอนออกเสียงค่ะ
หากเป็นคลิปสอนโฟนิคส์ (Phonics) ที่ออกเสียงใกล้เคียงกับที่ลูกเราเรียนมากที่สุด ก็เป็นคลิปนี้ค่ะ (เฉพาะการออกเสียงนะคะ)
ตอนนี้ผ่านไปประมาณ 3 เดือน ที่ลูกชั้นอนุบาล 2 หรือ Reception เรียน Phonics ที่โรงเรียน (มีบางช่วงเรียนออนไลน์เพราะปิดโควิด) ปรากฏว่า 3 เดือนผ่านไปน้องสามารถ ‘อ่านภาษาอังกฤษ’ ได้เป็นประโยคแล้วค่ะ เช่น Can you match the word? และประโยคต่าง ๆ จากประสบการณ์นี้ คุณแม่ตื่นเต้นมาก เพราะการเรียนโฟนิคส์ Phonics แม่ก็ได้เรียนการอ่านภาษาอังกฤษไปกับลูกด้วย และเข้าใจการออกเสียงภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น จากที่ปกติเราเคยเรียนแบบจำคำกันมา
หากเพื่อน ๆ มีข้อสงสัยแอดไลน์มาคุยกับคุณแม่ได้ที่ @beverlyo (มี @ นำหน้าค่ะ) แม้ว่าไม่ได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ แต่อะไรที่พอจะช่วยเด็ก ๆ และพ่อแม่เรียนภาษาอังกฤษ ออกเสียงภาษาอังกฤษได้ คุณแม่ก็ยินดีค่ะ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
- 10 โรงเรียนนานาชาติ อินเตอร์ น่าเรียน ในกรุงเทพ
- รีวิว ส่งลูกเรียนนานาชาติ อนุบาล และ ประสบการณ์ School Visit
- วิธีเลือก ‘โรงเรียนนานาชาติ’ ให้ลูก สำหรับพ่อแม่ที่ไม่ได้เรียนอินเตอร์
- เรียนโรงเรียนนานาชาติ ที่ไหนดี | หลักสูตรอังกฤษ อเมริกัน IB ต่างกันยังไง
- วิธีเลือก โรงเรียนนานาชาติ ที่เหมาะสมให้ลูก
- เรียนจบ ม. 6 มัธยม สามารถสอบ A-Level ได้ไหม (ข้อมูล IGCSE & A-Level)
- โรงเรียนนานาชาติ มีหลักสูตรอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
- พ่อแม่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ส่งลูกเรียนอินเตอร์ได้หรือไม่
- รีวิว วิธีสอน Phonics เด็ก 4-6 ขวบ วิธีสอนลูกอ่านภาษาอังกฤษ แบบโรงเรียนนานาชาติ
- ลูกอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก แก้ปัญหาอย่างไรดี (วิธีสอน Phonics ลูก)
- โรงเรียนนานาชาติ