บทความนี้ Beverly O มีวิธีเลือกโรงเรียนนานาชาติ ที่เหมาะสมให้กับลูกมาแนะนำค่ะ … คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่? ในปี 2021 ประเทศไทยมีโรงเรียนนานาชาติที่อยู่ในสมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทย หรือ International Schools Association of Thailand (ISAT) ถึง 128 แห่ง ซึ่งจำนวนนี้ยังไม่รวมโรงเรียนที่ไม่ได้อยู่ในสมาคม และแปลว่าโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยมีจำนวนมากกว่านี้ … สิ่งที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือ … จำนวน 2 ใน 3 ของ 128 โรงเรียนนี้ เป็นโรงเรียนนานาชาติที่ตั้งอยู่ภายในเขตกรุงเทพมหานคร และเปิดให้บริการสถานศึกษาหลากหลายหลักสูตร … แต่หากพูดถึงคำว่า “โรงเรียนนานาชาติ” แล้ว โรงเรียนนานาชาติหลักสูตร IB หรือ International Baccalaureate เป็นที่ทราบกันว่ามีความแตกต่างและเน้นความเป็นนานาชาติแบบ Global Citizen มากที่สุด เพราะอะไร? มาดูเหตุผล และดูวิธีเลือกโรงเรียนนานาชาติให้ลูกกันค่ะ
คุณอาจสนใจ
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรงเรียนนานาชาติ
แรกเริ่มเดิมทีโรงเรียนนานาชาติถูกก่อตั้งขึ้นมาสำหรับบุตรหลานของมิชชันนารี, เจ้าหน้าที่สถานทูต และนักธุรกิจหรือชาวต่างชาติที่เดินทางหรือย้ายถิ่นฐานไปทำงานทั่วโลกบ่อยครั้ง จึงมีการสร้างหลักสูตร International Baccalaureate (IB) ขึ้นมา ข้อดีของระบบ IB คือ ทำให้นักเรียนทั่วโลกได้เรียนรู้สิ่งเดียวกันคร่าว ๆ (ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไหน ศาสนาใด หรือปัจจัยอื่น ๆ เป็นเช่นไรก็ตาม) ทำให้ไม่ว่าจะย้ายไปประเทศไหนก็เรียนต่อได้ ไม่ต้องเริ่มเรียนใหม่ เมื่อเรียนจบสามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้หลากหลายประเทศทั่วโลก โรงเรียนนานาชาติจำนวนมากจึงมีการเปิดสอนหลักสูตร IB Diploma และมหาวิทยาลัยทั่วโลกก็ยอมรับประกาศนียบัตรนี้
คำแนะนำ ขั้นตอนการเลือกโรงเรียนนานาชาติให้กับลูก
1. หลักสูตร ระบบ และอนาคต
พ่อแม่บางท่านอาจเลือกโรงเรียนนานาชาติโดยดูจากระบบหรือหลักสูตรที่โรงเรียนใช้และคำนึงถึงอนาคตที่ลูกจะต้องไปต่อ เช่น
เลือกระบบที่ลูกจะเรียนต่อในอนาคต
สมมติพ่อแม่ถือพาสปอร์ตหรือหนึ่งในนั้นเป็นชาวต่างชาติ และมีแผนว่าจะพาลูกกลับไปเรียนประเทศต้นทาง การเลือกระบบโรงเรียนก็มีผลต่ออนาคตของลูก เช่น ระบบอังกฤษ สิงคโปร ฯลฯ เลือกไปตามประเทศปลายทางที่ลูกจะไปต่อ เพื่อให้ลูกย้ายโรงเรียนได้โดยไม่ต้องเรียนซ้ำชั้น หรือต้องเตรียมตัวเพิ่ม
เลือกระบบที่เหมาะกับลูก
นอกจากนี้ ก็มีผู้ปกครองบางท่านที่เลือกระบบโรงเรียนตามความเชื่อของพ่อแม่และความเหมาะสมกับนิสัยของลูก ส่วนเรื่องของอนาคตนั้น ค่อยมาเตรียมตัวกันทีหลัง แบบนี้ก็มีค่ะ ซึ่งก็จะแล้วแต่การแก้ปัญหาและการตัดสินใจของแต่ละครอบครัวค่ะ
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนนานาชาติมีหลายหลักสูตร และบางโรงเรียนอาจมีการเปิดให้บริการทางการศึกษามากกว่า 1 ระบบควบคู่กันไปภายในโรงเรียนเดียว หลักสูตรและระบบของโรงเรียนนานาชาติประกอบด้วย
- หลักสูตร IB หรือ International Baccalaureate
- หลักสูตรอเมริกัน
- หลักสูตรสหราชอาณาจักรอังกฤษและเวลส์
- หลักสูตรของประเทศอื่น ๆ เช่น ฝรั่งเศส, เยอรมัน, สิงคโปร์, แคนาดา เป็นต้น
ตัวอย่างโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยที่เปิดสอนหลักสูตรอื่นควบคู่ไปกับ International Baccalaureate คือ โรงเรียนนานาชาติ ISB ที่เปิดสอนโดยใช้หลักสูตร American Curriculum และมีโปรแกรม International Baccalaureate ให้เลือกเรียนในเกรด 11 – 12 … ผู้ปกครองที่กำลังมองหาโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย สามรถตรวจสอบรายชื่อโรงเรียนนานาชาติและหลักสูตรที่เปิดสอนได้ที่นี่ค่ะ
- รายชื่อ โรงเรียนนานาชาติ หลักสูตรอเมริกัน ในประเทศไทย
- รายชื่อ โรงเรียนนานาชาติ หลักสูตรอังกฤษในประเทศไทย
- รายชื่อ โรงเรียนนานาชาติ หลักสูตร IB ในประเทศไทย
- รายชื่อ โรงเรียนนานาชาติ หลักสูตรฝรั่งเศส ในประเทศไทย
2. ความเชื่อของพ่อแม่
เชื่อว่าพ่อแม่แต่ละคนมีความคิด และลักษณะของโรงเรียนหรือลักษณะวิธีการเรียนรู้อยู่ในใจ … หากอยากหาโรงเรียนนานาชาติที่เหมาะสม … ก็สามารถพิจารณาจาก Vision, Mission, วิสัยทัศน์ ปรัชญา Philosophy ต่าง ๆ ที่เขียนไว้ในเว็บไซต์ของโรงเรียน หรือสอบถามจากโรงเรียน … หากอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนก็คือ … พ่อแม่บางท่านอาจจะไม่ชอบโรงเรียนสายวิชาการ ที่สอนวิชาการตั้งแต่ชั้นอนุบาล … กรณีนี้ … ก็อาจจะต้องดู Philosophy และแนวทางการสอนของโรงเรียนค่ะ … ส่วนพ่อแม่ที่ไม่สบายใจเลย ถ้าหากลูกไม่ได้เรียนวิชาการแบบเข้มข้น อันนี้ก็ต้องหาโรงเรียนที่เหมาะกับความเชื่อของพ่อแม่ค่ะ
ยกตัวอย่าง
หลักสูตรที่ Beverly O คิดว่ากำลังมาแรง และมักจะได้ยินพ่อแม่มือใหม่พูดถึงกันก็คือ หลักสูตร IB เพราะค่อนข้างมีความชัดเจนเรื่องแนวการสอน ซึ่งจะสอนวิธีเรียนรู้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่การเรียนรู้แบบครูเอาข้อมูลไปใส่นักเรียน แต่จะเป็นการเรียนแนวให้เรียนรู้วิธีเรียนรู้ และมีการบ่มเพาะสกิล Critical Thinking ส่งเสริมความเป็น Global Citizen และอีกมากมาย นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่ยกขึ้นมาเพื่อให้เห็นความแตกต่าง เพราะการเรียนการสอนของแต่ละหลักสูตร หรือ ของแต่ละโรงเรียนอาจจะไม่เหมือนกันค่ะ
3. การรับรองหลักสูตร (Accredition)
อีกสิ่งที่พ่อแม่ควรทำ ในการเลือกโรงเรียนนานาชาติให้ลูก คือ ควรเช็ก Accredition หรือการรับรองวิทยฐานะ เพื่อดูว่าโรงเรียนผ่านการประเมินหรือไม่? และดูว่าองค์กรใดประเมินการรับรองนี้บ้าง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความเชื่อมั่นว่าลูกหลานของเราจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษานานาชาติ เพราะว่าได้ผ่านการประเมินโดยองค์กรที่มีภารกิจในการประเมินมาแล้ว เช่น องค์กร Western Association of Schools and Colleges (WASC), the New England Association of Schools and Colleges (NEASC), the Council of International Schools (CIS) และ CfBT Education Trust
โดยปกติ โรงเรียนนานาชาติระบบอเมริกันในต่างประเทศ (นอกประเทศสหรัฐอเมริกา) จะต้องผ่านการประเมินและรับประกันจากหนึ่งในสี่องค์กรประเมินของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Western Association of Schools and Colleges (WASC) และ New England Association of Schools and Colleges (NEASC) ซึ่งหากผู้ปกครองกำลังมองหาโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอเมริกันให้กับลูก ก็ควรจะหาโรงเรียนที่มีการ Accredition จากหนึ่งในสี่องค์กรที่กล่าวไปค่ะ
- โรงเรียนนานาชาติ หลักสูตรอเมริกัน คืออะไร ดีไหม เรียนอะไรบ้าง?
- โรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษ คืออะไร ดีไหม เรียนอะไรบ้าง?
- พ่อแม่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ส่งลูกเรียนอินเตอร์ได้หรือไม่
4. ครูผู้สอนและอาจารย์ใหญ่ รวมถึงสถานะภาพโดยรวมของโรงเรียน
โรงเรียนนานาชาติที่เหมาะสม ควรมีครูผู้สอนควรมีวุฒิที่เหมาะสมโดยตรงเช่นกัน เพื่อให้มีความมั่นใจว่าเด็กจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะพิจารณาการประกอบการโดยรวมและสภาพของโรงเรียน มีการเปลี่ยนครูผู้สอนบ่อยมั้ย? รวมไปถึงอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเช่นกันนะคะ … เพื่อให้มั่นใจว่าการเรียนของลูกเราจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และการบริหารจัดการภายในโรงเรียนจะเป็นไปในสภาพที่ราบรื่นไม่มีผลต่อการศึกษาและเรียนรู้ของเด็กไม่ว่าในแง่มุมใดก็ตามค่ะ
โรงเรียนนานาชาติชื่อดัง มักจะมีการลงทุนอย่างมากไปกับการจ้างครูที่มีประสบการณ์และมีความรู้ตรงสายมาสอนค่ะ ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงว่ามีวุฒิตรงสายเพียงอย่างเดียว แต่มีประสบการณ์และมีความสุขกับการสอนตรงนี้ด้วย … นอกจากนี้ … อาจจะพิจารณา Facility ต่าง ๆ ที่โรงเรียนมีให้ พิจารณาความปลอดภัย ความเหมาะสม ความสะอาด ที่จะเหมาะกับการเรียนรู้ของเด็ก
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า โรงเรียนที่ดี อาจไม่ใช่โรงเรียนที่มีตึกสวย แต่เป็นโรงเรียนที่สามารถช่วยสร้างเด็กให้มีสกิลที่จะนำไปใช้ได้ในโลกแห่งความเป็นจริงค่ะ
5. ทำเลที่ตั้ง และสังคม
โรงเรียนนานาชาติมักมีเวลาเปิดเรียนแตกต่างจากโรงเรียนปกติเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติดในเวลาเร่งด่วนบนท้องถนน โรงเรียนนานาชาติบางแห่งเริ่มเรียนในเวลา 07.30 น. และเลิกเรียนในช่วงเวลาประมาณ 14.00 – 14.30 น.
สิ่งที่ผู้ปกครองควรพิจารณาคือเส้นทางในการเข้าถึงโรงเรียน รถติดหรือไม่ เด็กเดินทางไกลเกินไปมั้ย จะเรียนไหวมั้ย แม้ว่าใจพ่อแม่จะพร้อมขับรถรับส่ง แต่ ‘ร่างกาย’ และจิตใจของเด็กจะพร้อมไปด้วยมั้ย ซึ่งก็แน่นอนว่า เด็กที่พักผ่อนเพียงพอ ก็จะมีสภาพร่างกายที่พร้อมเรียนรู้และสนุกมากกว่า
อีกสิ่งที่พ่อแม่ควรพิจารณาคือเรื่องสังคมและความเป็นอยู่ … กล่าวคือ …
- ส่งลูกเสร็จ คุณจะทำอะไรต่อ
- สำหรับแม่บ้าน? มีที่พัก ร้านกาแฟ สถานที่ให้รอรับลูกหรือไม่?
- สังคมบริเวณนั้น น่าอยู่มั้ย บรรยากาศถูกใจรึเปล่า
ที่จอดรถ หรือแม้กระทั่งบ้านเช่าหรือบ้านสำหรับซื้อ (สำหรับผู้ปกครองที่จำเป็นต้องย้ายบ้าน) … เป็นสถานที่ที่คุณจะต้องอยู่เวียนวนไปอีก 10 ปี หรือแล้วแต่สถานการณ์ของแต่ละครอบครัว ซึ่งหากเราได้ที่ที่สบายใจ ก็จะทำให้กิจวัตรประจำวันของเราแต่ละวันผ่านไปโดยมีความสุขค่ะ
6. กิจกรรมเสริม การสนับสนุน และการให้คำแนะนำ
กิจกรรมเสริม เช่น กิจกรรมนอกเหนือหลักสูตร การช่วยเหลือสังคม เป็นกิจกรรมที่สามารถช่วยให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และสามารถสอนให้เด็กเรียนรู้ Social Skills โดยแต่ละโรงเรียนมีแนวทางในการส่งเสริมการทำกิจกรรมที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการสนับสนุนหลักสูตร เช่น การให้การดูแลหรือสนับสนุนนักเรียนที่ต้องการการ Support หรือ Assistant เพิ่มเติม รวมไปถึงการให้คำแนะนำหรือให้คำปรึกษาผู้ปกครอง … คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้เป็นอีกหนึ่งส่วนในการตัดสินใจเลือกโรงเรียนนานาชาติให้กับลูกได้เช่นกันค่ะ
7. ขนาดของโรงเรียนและจำนวนเด็กในชั้นเรียน
เด็กบางคนอาจมีความสุขและมั่นใจในบรรยากาศโรงเรียนขนาดเล็กหรือชั้นเรียนที่มีจำนวนเด็กน้อย ๆ และเด็กบางคนอาจรู้สึกสบายกับการเรียนในโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนมากกว่าและมีขนาดโรงเรียนใหญ่กว่า เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ผู้ปกครองควรศึกษาเกี่ยวกับลูกและเลือกบรรยากาศที่ทำให้ลูกมีความสุขในการเรียนได้มากกว่าค่ะ
ระดับชั้นโรงเรียนอินเตอร์ หลักสูตรต่าง ๆ
อายุ (ปี) | ระบบไทย | ระบบ US | ระบบ UK (เฉพาะอังกฤษ) |
Key Stage (เฉพาะอังกฤษ) |
---|---|---|---|---|
2.6+ | เนอร์สเซอรี่ | Nursery | Pre-Nursery | Early Years Foundation |
3-4 | อนุบาล 1 | Pre-K 1 | Nursery | Early Years Foundation |
4-5 | อนุบาล 2 | Pre-K 2 | Reception | Early Years Foundation |
5-6 | อนุบาล 3 | Kindergarten | Year 1 | KS 1 |
6-7 | ป. 1 | Grade 1 | Year 2 | KS 1 |
7-8 | ป. 2 | Grade 2 | Year 3 | KS 2 |
8-9 | ป. 3 | Grade 3 | Year 4 | KS 2 |
9-10 | ป. 4 | Grade 4 | Year 5 | KS 2 |
10-11 | ป. 5 | Grade 5 | Year 6 | KS 2 |
11-12 | ป. 6 | Grade 6 | Year 7 | KS 3 |
12-13 | ม. 1 | Grade 7 | Year 8 | KS 3 |
13-14 | ม. 2 | Grade 8 | Year 9 | KS 3 |
14-15 | ม. 3 | Grade 9 | Year 10 | KS 4 (IGCSE, Fifth Form) |
15-16 | ม. 4 | Grade 10 | Year 11 | KS 4 (IGCSE, Fifth Form) |
16-17 | ม. 5 | Grade 11 | Year 12 | KS 5 (A Level, Sixth Form) |
17-18 | ม. 6 | Grade 12 | Year 13 | KS 5 (A Level, Sixth Form) |
สอบ | GAT/PAT | SAT | A-Level |
แหล่งข้อมูล
https://www.ibo.org
www.isat.or.th
https://www.ibo.org/globalassets/what-is-an-ib-education-2017-en.pdf
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
- 10 โรงเรียนนานาชาติ อินเตอร์ น่าเรียน ในกรุงเทพ
- รีวิว ส่งลูกเรียนนานาชาติ อนุบาล และ ประสบการณ์ School Visit
- วิธีเลือกโรงเรียนให้ลูก เรียนนานาชาติดีมั้ย เลือกยังไงให้ถูกใจไม่ผิดหวัง
- วิธีเลือก ‘โรงเรียนนานาชาติ’ ให้ลูก สำหรับพ่อแม่ที่ไม่ได้เรียนอินเตอร์
- เรียนโรงเรียนนานาชาติ ที่ไหนดี | หลักสูตรอังกฤษ อเมริกัน IB ต่างกันยังไง
- โรงเรียนนานาชาติ หลักสูตรอเมริกัน คืออะไร ดีไหม เรียนอะไรบ้าง?
- โรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษ คืออะไร ดีไหม เรียนอะไรบ้าง?
- วิธีเลือก โรงเรียนนานาชาติ ที่เหมาะสมให้ลูก
- เรียนจบ ม. 6 มัธยม สามารถสอบ A-Level ได้ไหม (ข้อมูล IGCSE & A-Level)
- โรงเรียนนานาชาติ มีหลักสูตรอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
- พ่อแม่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ส่งลูกเรียนอินเตอร์ได้หรือไม่
- รีวิว วิธีสอน Phonics เด็ก 4-6 ขวบ วิธีสอนลูกอ่านภาษาอังกฤษ แบบโรงเรียนนานาชาติ
- ลูกอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก แก้ปัญหาอย่างไรดี (วิธีสอน Phonics ลูก)
- โรงเรียนนานาชาติ